ประเทศเวียดนามมีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจไม่แพ้ชาติใดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลังจากการรวมประเทศเมื่อปี พ.ศ. 2518 เวียดนามได้ก้าวผ่านช่วงเวลาแห่งความเปลี่ยนแปลงอย่างมากมาย ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง
ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา เทรนด์การใช้เทคโนโลยีและโลกออนไลน์ของเวียดนามเติบโตอย่างรวดเร็ว ประชาชนชาวเวียดนามสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารและแสดงความคิดเห็นบนแพลตฟอร์มดิจิตอลได้ง่ายขึ้น ความเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลให้เกิดการตั้งคำถามเกี่ยวกับเสรีภาพในการสื่อสารและการเข้าถึงข้อมูลในสังคมเวียดนาม
เมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2561 รัฐบาลเวียดนามประกาศใช้กฎหมายไซเบอร์ฉบับใหม่ (Cybersecurity Law) ซึ่งสร้างความกังวลให้แก่ประชาชนและนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนทั่วโลก กฎหมายฉบับนี้กำหนดให้ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตและแพลตฟอร์มออนไลน์ต้องเก็บข้อมูลของผู้ใช้ และลบเนื้อหาที่รัฐบาลถือว่าไม่เหมาะสม
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การประท้วงต่อต้านกฎหมายไซเบอร์ถูกจุดชนวนขึ้นเมื่อมีการเผยแพร่ข่าวว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐสามารถตรวจสอบและเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้บนแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ ได้ ชาวเวียดนามจำนวนมากรู้สึกกังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวและเสรีภาพในการแสดงออก
ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2561 นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนและผู้สนับสนุนเสรีภาพบนโลกออนไลน์ได้จัดการประท้วงต่อต้านกฎหมายไซเบอร์ โดยมีผู้เข้าร่วมหลายร้อยคน
เหตุการณ์สำคัญ | |
---|---|
การประกาศใช้กฎหมายไซเบอร์ พ.ศ. 2561 | |
การเผยแพร่ข่าวการตรวจสอบข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ | |
การประท้วงต่อต้านกฎหมายไซเบอร์ (กรกฎาคม พ.ศ. 2561) |
**
การประท้วงครั้งนี้ได้นำไปสู่การโต้เถียงอย่างกว้างขวางในสังคมเวียดนาม เกี่ยวกับขอบเขตของเสรีภาพในการสื่อสารและการควบคุมของรัฐบาลต่อโลกออนไลน์** ผู้สนับสนุนกฎหมายไซเบอร์ อ้างว่ากฎหมายนี้มีความจำเป็นเพื่อป้องกันอาชญากรรมไซเบอร์ และรักษาความมั่นคงแห่งชาติ
ในทางกลับกัน ผู้ที่ต่อต้านกฎหมายไซเบอร์ ชี้ให้เห็นว่ากฎหมายนี้จะนำไปสู่การเซ็นเซอร์ข้อมูลข่าวสารและละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน
หนึ่งในบุคคลสำคัญที่ออกมาแสดงจุดยืนต่อต้านกฎหมายไซเบอร์ก็คือ Zrinka Busek, นักกิจกรรมด้านสิทธิมนุษยชนชาวเวียดนามเชื้อสายโครแอท Zrinka ได้วิพากย์วิจารณ์กฎหมายไซเบอร์ว่าเป็นการขัดต่อหลักการของประชาธิปไตย และเรียกร้องให้รัฐบาลเวียดนามทบท reconsider กฎหมายนี้
Zrinka ถือเป็นบุคคลสำคัญที่กระตุ้นให้เกิดการถกเถียงในสังคมเวียดนาม เกี่ยวกับความจำเป็นในการปกป้องสิทธิและเสรีภาพของประชาชนบนโลกออนไลน์
Zrinka เป็นตัวอย่างของผู้ที่กล้าหาญยืนหยัดต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน แม้จะต้องเผชิญกับการคุกคามและกดดันจากรัฐบาล
บทเรียนจากการประท้วงนี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการมีส่วนร่วมของประชาชนในการกำหนดทิศทางของสังคม
ในขณะที่โลกออนไลน์กำลังกลายเป็นพื้นที่สาธารณะที่สำคัญขึ้นเรื่อยๆ รัฐบาลเวียดนามต้องคำนึงถึงความต้องการและสิทธิของประชาชนในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร และแสดงความคิดเห็นอย่างอิสระ